แสนจะง่าย!! ทำน้ำสบู่กำมะถัน ใช้ป้องกันไรแดง ไรแมงมุง เชื้อรา และแบคทีเรีย ในต้นไม้ แบบปลอดสารพิษ


การทำน้ำสบู่กำมะถัน เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรก หรือปลูกจำนวนไม่มาก และต้องการป้องกัน การเกิดโรค และศัตรูพืช แบบปลอดสารพิษ ( Non-toxic ) เหมาะสำหรับครัวเรือน หากเป็นการปลูกแบบสวน หรือเกษตกรที่ประกอบเป็นอาชีพ อาจจะเป็นต้นทุนที่สูงเกินไป ควรใช้เป็นกำมะถ้นที่มีจำหน่าย แบบถูกต้องในร้านที่ขายสินค้าการเกษตรโดยตรง

สบู่กำมะถัน หรือสบู่ซัลเฟอร์ ( Sulfur Soap ) เป็นสบู่ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด โดยจะมีส่วนกำมะถันผสมอยู่ 2.5-3% ซึ่งการเลือกนำสบู่กำมะถันมาใช้นั้น ควรเลือกที่มีการรับรอง หรือผลิตที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านขายยา ร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ ในท้องตลาดในไทย มีจำหน่าย มีอยู่ 3 แบรนด์ หลัก Defento, Myda, Oxecure ซึ่งคุณสมบัติการใช้งานไม่แตกต่างกันมาก สามารถเลือกใช้ได้ทั้งหมด ตามความสะดวก


สิ่งที่ต้องเตรียม

1. สบู่กำมะถัน หรือสบู่ซัลเฟอร์ ( เลือกใช้ได้ทุกยี่ห้อตามสะดวก )
2. น้ำอุ่น หรือน้ำที่ต้มและผ่านการพัก ให้อุณหภูมิไม่เกิน 48-60 องศาเซลเซียส
3. น้ำอุณหภูมิปกติ
4. อุปกรณ์ผสม
5. ขวดสเปรย์พ่น หรือฟ๊อกกี้
6. อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำให้สบู่เป็นฝอย มีดหั่น หรือมีดปลอกผลไม้
7. กระชอนตาถี่ ตาละเอียด

ขั้นตอนการทำ

1. นำสบู่กำมะถันมาหั่น หรือขุดให้เป็นฝอย เพื่อให้ง่ายในขั้นตอนการละลาย


2. นำน้ำอุ่น ( ใช้ปริมาณน้ำ 1/3 ของปริมาณสบู่ ) ผสมเข้ากับสบู่ที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยใส่น้ำที่ละน้อยๆ แล้วคนให้เข้ากันในขณะที่น้ำยังอุ่นๆ และค่อยๆ เติมน้ำทีละนิด จนได้เป็นลักษณะน้ำสบู่ข้นๆ










3. นำน้ำสบู่เข้มข้นผสมเข้ากับน้ำอุณหภมิปกติ โดยประมาณ 1 เท่าตัวของน้ำสบู่เข้มข้น เพื่อให้ง่ายต่อการคนผสม และนำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ หากมีสบู่ที่ยังละลายไม่หมด ให้ขยี้ละลายให้เข้ากัน


4. เมื่อได้ตัวหัวน้ำสบู่กำมะถันแล้ว ให้นำไปเจือจางกับน้ำอุณหภูมิปกติก่อนนำไปใช้ ใส่เป็นขวดสเปรย์พ่น
และนำไปพ่นตามที่มีการระบาด

การนำไปใช้งาน

สัดส่วนการใช้นั้นไม่มีตายตัว แต่แนะนำให้ผสมให้เจือจาง 15-20 เท่า ในการใช้งานครั้งแรก และค่อยปรับให้เข้มข้นขึ้น หากพืชไม่แสดงอาการใบไหม้ หรือใบเหลือง ใบร่วง

การใช้งานควรเว้นระยะการใช้งานให้เหมาะสม โดยดูจาดอาการของต้น หรือการระบาดที่ลดลง หากไม่มีการระบาดแล้ว เป็นระยะป้องกัน ก็สามารถลดความถี่การใช้งานลงได้

การดูแลรักษาแบบปลอดสารพิษจะให้ได้ผลนั้น ต้องใช้ความสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลลัทธ์ที่ชัดเจน และถ้าหากเคยใช้สารเคมี หรือสารที่เป็นกลุ่มยาฆ่าแมลงมาแล้ว ตัวไรแดง นั้นจะมีอาการดื้อยาอาจจะทำให้การใช้อินทรีย์ หรือปลอดสารพิษไม่ได้ผล หรือมีประสิทธิต่ำ

บทความที่เกี่ยวข้อง

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

เชื้อรา ไตรโคเดอร์มา Trichoderma คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง ?? และวิธีการใช้ควบคุมโรคพืช


ไตรโคเดอร์มา เป็นสิ่งมีชีวิต เชื้อราชั้นดีชนิดหนึ่ง ที่ถูกดึงเอามาใช้ในการเกษตรที่ไม่ต้องการใช้สารเคมี เพื่อป้องกัน และควบคุมโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อราก่อโรค โดยให้เป็นกลไกการเข้าทำลายเชื้อราก่อโรคตามธรรมชาติ ซึ่งกระบวนการเข้าทำลาย แย่งอาหาร ขยายตัวครอบคลุมเชื้อราก่อโรค ส่งผลให้ผนังเซลล์ของเชื้อราก่อโรคถูกทำลาย และเชื้อราไตรโคเดอร์มาจะสร้าง และปลดปล่อยสารปฏิชีวนะออกมา ซึ่งสารนั้นมีคุณสมบัติในการยับยั้ง และทำลายเชื้อราก่อโรค

เชื้อราไตรเดอร์มานั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ อาทิเช่น Trichoderma Harzianum, Trichoderma Viride, Trichoderma Amatum แต่ที่นิยมใช้และมีการวิจัยว่า ทนต่อสภาพอากาศของประเทศไทย คือ Trichoderma Harzianum

ส่วนเชื้อราก่อโรคได้แก่

เชื้อรา พิเทียม ( Pythium ) เป็นสาเหตุของ โรคเน่าระดับดิน กล้ายุบ กล้าเน่า
เชื้อรา ฟิวซาเรียม ( Fusarium ) เป็นสาเหตุของ โรคเหี่ยว
เชื้อรา สเคลอโรเทียม ( Sclerotium rolfsii ) เป็นสาเหตุของ โรคโคนเน่า เหี่ยว
เชื้อรา ไรซอคโทเนีย ( Rhizoctonia ) เป็นสาเหตุของ โรคเน่าระดับดิน กล้าเน่า
เชื้อรา คอลเลโททริคัม ( Colletotrichum ) เป็นสาเหตุของ โรคใบจุด แอนแทรคโนส
เชื้อรา อัลเทอร์นาเรีย ( Alternaria ) เป็นสาเหตุของ โรคใบจุด ใบไหม้









การนำไปใช้งาน และประโยชน์ ของเชื้อรา “ไตรโคเดอมา”

“ไตรโคเดอร์มา” เป็นเชื้อราดี ที่ไม่มีอันตราย พืช คน และสัตว์ มีคุณสมบัติในการเข้าทำร้าย เชื้อราร้ายที่ก่อให้เกิดโรคกับพืช ไตรโคเดอร์มา มี 3 รูปแบบ คือ ชนิดผง ชนิดน้ำ และเชื้อสด

ารใช้งานหากต้องการให้ได้ผลดี จึงเป็นลักษณะการใช้เพื่อป้องก้น ก่อนการเกิดโรคต่างๆ หากในระยะที่ติดเชื้อ หรือเกิดโรคแล้วจะควบคุมได้ค่อนข้างยากกว่า ดังน้้นการใช้งานในช่วงที่ระบาดจึงต้องมีความถี่ และใช้ควบคู่กับการดูแลด้านอื่นๆ

  • ควบคุม ยับยั้ง เข้าทำลาย เชื้อราร้ายต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคกับพืช
  • กระตุ้น และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของพืชให้แข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี
  • ช่วยย่อยสลาย อินทรีย์วัตถุในดิน เพื่อเพิ่มธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์
  • ปรับเปลี่ยนธาตุอาหารในดิน เพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ดี
  • ช่วยกระตุ้นให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรค และมีผลผลิตที่ดี
  • ช่วยปรับโครงของดินที่ มีสภาวะดินเสื่อม ที่เเป็นสาเหตุให้พืชอ่อนแอ และเกิดโรคได้ง่าย

การใช้งาน
  • ใช้คลุกเมล็ดพันธุ์ เพื่อป้องกันโรคที่อาจติดมากับเมล็ดพันธุ์
  • รองก้นหลุม ที่ต้องการปลูกพืช
  • ผสมกับวัสดุปลูก ดินปลูก หรือปุ๋ยหมักต่างๆ
  • การฉีดพ่นตามใบ ต้น หรือดิน หรือรดโคนต้น
  • โรยหน้ากระถาง หว่านลงดิน หรือแปลงปลูก
ข้อจำกัดในการใช้งาน
  • ไม่ควรใช้งานในช่วงที่แสงแดดจัด อากาศร้อน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากเชื้อตาย
  • ก่อนใช้งาน รดน้ำให้ดินมีความชื้นพอเหมาะ หรือไม่แฉะจนเกินไป
  • ไม่ควรใช้งานร่วมกันกับสารเคมี เพราะอาจเข้าไปยับยั้ง หรือทำให้เชื้อตาย และหมดประสิทธิภาพได้ **หากมีความจำเป็นต้องใช้งานสารเคมี ควรเว้นระยะในช่วง 7-10 วัน ก่อน หรือหลังการใช้เชื่อราไตรโคเดอร์มา
  • ไม่ควรใช้กับการเพาะเห็ด เพราะเชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราที่กินเชื้อราเป็นอาหาร ( ซึ่งเห็ดเป็นพืชอยู่ในกลุ่มรา )

คำแนะนำสำคัญในการใช้คือ ไตรโครเดอร์มาเหมาะกับพืชที่ยังไม่แสดงอาการของโรค ใช้เพื่อป้องกันจะได้ประสิทธิภาพดีกว่าโดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่ ระยะเพาะเมล็ด การเตรียมต้นกล้าพืช

หากพืชแสดงอาการของโรคแล้ว ให้เพิ่มความถี่ในการใช้งาน แต่หากมีการระบาดรุนแรง อาจไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ทันท่วงที จึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นๆ เข้าร่วมด้วย

แต่ถึงแม้จะมีข้อจำกัดใดๆ หากเราป้องกันไว้ดี หรือดูแลสม่ำเสมอการเกิดโรคก็มีอัตราต่ำ และที่สำคัญคือ การลด หรือหยุดใช้สารเคมี นั้นจะส่งผลที่ดีในระยะยาวอย่างแน่นอน

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา