ชำหน่อ กระบองเพชร(แคคตัส) ง่ายๆ ด้วยเม็ดดินเผา (Popper)


spilt_cactus

การชำหน่อ กระบองเพชร (แคคตัส) สามารถชำลงในดินปลูก หรือวัสดุอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ดินญี่ปุ่น หินภูเขาไฟ หรือเม็ดดินเผา แต่ข้อดีของการชำด้วยเม็ดดินเผา ก็คือ เรื่องการรักษาความชื้นที่เก็บได้ดี วัสดุโปร่ง ทำให้ควบคุมการให้น้ำได้ง่าย เพราะในช่วงที่ชำหน่อนั้น ไม้ต้องการความชื้นมากกว่า ตอนที่ปลูกตามปกติ เพื่อกระตุ้นในรากนั้นงอกออกมาง่ายและเร็ว

การชำหน่อด้วยเม็ดดินเผา สามารถทำได้โดยใช้เม็ดดินเผา ล้วนหรือจะผสมกับหินภูเขาไฟ เบอร์ 00 ได้ทั้ง 2 แบบ

สิ่งที่ต้องระวังและดูแลในการชำแบบนี้คือ

  • การรักษาความชื้นและแสงแดดให้เหมาะสม
  • หน่อที่นำมาล่อรากควรจะต้องสมบูรณ์
  • หลังจากเด็ดหน่อมากแล้ว ควรพักไว้สัก 7-10 วันก่อน นำมาชำเพื่อให้แผลที่เด็ดมากนั้นปิดและแห้ง เพื่อป้องกันการเน่า

วิธีการชำหน่อ
     หลังจากผึ่งหน่อไว้จนแผลที่เด็ดแห้งแล้ว ก็นำมาใส่ในเม็ดดินเผา ที่มีหินภูเขาไฟผสมเล็กน้อย หรือจะเป็นเม็ดดินเผาล้วนโดยนำภาชนะก้นปิด ไม่มีรู ใส่ลงไปให้สูงจนเต็มภาชนะ หลังจากนั้นใส่น้ำไว้ครึ่งหนึ่งของภาชนะ ควรเป็นภาชนะที่ใส เพื่อจะได้มองเห็นระดับน้ำ
นำต้นไม้วางลงบนเม็ดดินเผาให้รากฝั่งลงไป และยกโคนต้นให้เหนือเม็ดดินเผา ความชื้นจะค่อยๆ ระเหย หมั่นค่อยเติมน้ำเมื่อแห้ง ระดับน้ำครึ่งหนึ่งของภาชนะเหมือนเดิม เลี่ยงการวางกลางแดด วางไว้ที่แดดอ่อนๆ หรือชายคาบ้าน









 เมื่อชำหน่อไปได้สักระยะ จนเห็นว่า ยอดเดินแล้ว เป็นสัญญาณบอกว่า ไม้นั้นมีรากงอกออกมาแล้ว สามารถนำไปปลูกลงดินปลูกกระบองเพชรได้ตามปกติ 

spilt_cactus3.jpg

ในการนำไปปลูกควรจะต้องระวังและเบามือ เพื่อป้องกันไม่ให้รากที่งอกออกมานั้นขาด และต้องนำลงปลูกทันทีที่นำออกจากการชำราก เพราะรากนั้นยังอ่อนแอ อาจจะทำให้รากแห้งและต้นขาดน้ำได้




spilt_cactus4.jpg

ข้อดีของการชำหน่อด้วย เม็ดดินเผา หรือป๊อบเปอร์ คือ เราไม่ต้องรดน้ำบ่อย เพื่อรักษาความชื้น และรากจะมาค่อนข้างเร็ว สามารถนำมาใช้ซ้ำๆ ได้หลายครั้ง หลังจากใช้เสร็จ ก็นำพึ่งแดดให้แห้งสนิทและเก็บไว้ใช้งานได้อีก หรือจะทำเป็นถาดแช่ไว้ เมื่อมีหน่อก็สามารถนำมาชำต่อได้เรื่อยๆ
แต่ข้อที่ด้อยกว่าการชำลงดินคือ ในการชำลงดินนั้นรากอาจจะมาช้ากว่าเม็ดดินเผา แต่รากจะแข็งแรง และปลูกต่อได้เลย โดยไม่ต้องย้ายมาลงปลูกใหม่

หลังจากนำไม้ลงปลูกแล้วก็ดูแลเหมือนการปลูกต้นไม้ทั่วไป
>> การดูแล กระบองเพชร (แคคตัส) ไม้อวบน้ำ หลังจากการเปลี่ยนกระถาง <<

หลังจากดูแลเลี้ยงดู ใส่ปุ๋ยบำรุง ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ เจ้าหน่อเล็กก็พร้อมออกดอก แต่หน่อต่อไป 

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

ล่อราก ชำหน่อ ยิมโนด่าง : รีวิว วัสดุใช้ล่อราก (Gymnocalycium Variegata)


Review-create_new_root_01

     ในการ “ล่อราก” หรือ ชำหน่อยิมโนด่างนั้น จะค่อนข้างยาก กว่าการล่อรากยิมโนที่ไม่ด่าง และสายพันธุ์อื่น ด้วยความที่เขามีสีที่ด่าง หรือสีเขียวน้อย ทำให้การสังเคราะห์แสง เพื่อเจริญเติบโตจงค่อนข้างยาก บางคนถึงนิยมนำไป “กราฟ” เพราะจะช่วยทำให้ไม้โตไวขึ้น

โดยปกติ การล่อราก สามารถทำได้ทั้งแบบ ระบบเปิด และระบบปิด ซึ่งมีข้อดีเสียแตกต่างกันไป การล่อรากในระบบปิด เสี่ยงต่อการเน่า หรือขึ้นรา การล่อรากแบบเปิด ก็เสี่ยงต่อการที่หน่อฝ่อ รากไม่ออก

สิ่งสำคัญในการล่อรากแบบปิด โดยไม่ใช้ยาเร่งราก หรือยากันรา

• หน่อที่นำมาล่อราก หรือชำหน่อ แผลต้องแห้งสนิท ไม่ฉะนั้นอาจจะทำให้เกิดการเน่า แนะนำให้นำหน่อไปตากแดดอ่อนๆ จะช่วยสมานแผล และฆ่าเชื้อโรคได้

• ภาชนะที่ใช้ หรือวัสดุที่ใช้ควรจะต้องมีความสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดรา

• อุณหภูมิที่เหมาะสม อากาศควรถ่ายเทได้ดี แสงแดดที่พอเพียง เป็นช่วงแดดเช้า หรือแดดร่ำไร ประมาณ 40% ห้ามวางในที่ที่อากาศร้อนอบอ้าว หรืออุณหภูมิสูง

• ไม่ควรเคลื่อนย้าย หรือเปิดดูบ่อยๆเพราะอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างภายในกับภายนอก
อาจจะมีผลกับต้น และการยกดูบ่อยๆ จะเป็นการรบกวน ทำให้รากออกช้า หรือไม่ออก









ขั้นตอนการล่อราก หรือชำหน่อแบบปิด นั้นง่ายมาก
เพียงแค่ใส่วัสดุที่เราใช้ล่อราก 1/3 ของภาชนะที่เราใช้ล่อราก พรมน้ำให้ชุ่ม แล้ววางหน่อของเราไว้บนวัสดุล่อราก โดยไม่ต้องกดหรือฝังแค่วางไว้เฉย หลังจากนั้นก็ปิดฝาให้สนิท คำแนะนำ ภาชนะที่จะนำมาใช้ล่อรากควรเป็น ภาชนะที่รับแสงได้ดี ไม่ควรทึบ หรือแสงเข้าถึงยาก

วัสดุที่เรานำมารีวิวในการล่อราก หรือชำหน่อ ยิมโนด่าง มีดังนี้
•เม็ดดินเผา •เพอร์ไลต์จิ๋ว •ดินอคาดามะ •หินภูเขาไฟ ทีพีไอ •ดินปลูก #mini3garden
โดยมีการนำวัสดุมาผสมกันด้วย
ระยะเวลาที่ใช้คือ 25 วัน
ล่อราก หรือชำหน่อ แบบไม่ใช่ยาเร่งราก และยากันรา


**ปัจจัยที่อาจจะทำให้ได้ ผลผลลัพธ์แตกต่างคือ • สี ความด่าง มาก น้อย • ขนาด และความสมบูรณ์ ของหน่อ
การทดลองนี้ถือว่า 70% สามารถนำมาตัดสินใจใช้วัสดุ แต่ละประเภท และทดลองต่อไป

Review-create_new_root_02
Review-create_new_root_03

-ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้ ดินปลูก #mini3garden

Review-create_new_root_04

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • ดินอคาดามะ ผสมกับ • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ 

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • เม็ดดินเผา ผสมกับ •เพอร์ไลท์จิ๋ว

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • เม็ดดินเผา ผสมกับ • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ


สรุปผลการใช้วัสดุล่อราก ชำหน่อ ยิมโนด่าง แต่ละชนิด

หลังจากการล่อรากเสร็จแล้วก็คือ ขั้นตอนการในไปปลูกในดินปลูกแบบปกติต่อไป โดยไม่ต้องตัดแต่งราก หรือดึงวัสดุที่ติดอยู่กับรากออก เพราะรากที่ล่อ หรือชำนั้นค่อนข้างบอบบาง ไม่ควรมีการกระทบกระเทือนแบบรุนแรง เพราะอาจจะทำให้รากตายได้ จึงต้องควรเบามือ และใช้ความระมัดระวัง ดินปลูกที่ใช้ควรเป็นดินที่มีความชื้นอยู่ในตัว ไม่แห้ง

หลังจากปลูกเสร็จก็สเปรย์น้ำเล็กน้อย และวางไว้ในที่ๆ แดดร่ำไร ไม่ร้อน ให้เขาได้ค่อยๆ ปรับตัว หลังจากผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ รากก็จะเดินดีแข็งแรง และถ้าหากสังเกตว่า ยอดเริ่มเดินแสดงว่า ระบบรากนั้นสมบูรณ์แล้ว ก็ค่อยนำไปเทรนแดด เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของแสง และเลี้ยงตามปกติได้เลย

การรีวิวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการฟันธงว่า วัสดุใดดีกว่ากัน แต่เป็นการทดลองเพื่อให้เห็นผลลัพธ์
โดยจะต้องมีการทดลองซ้ำกันหลายครั้งเพื่อเก็บสถิติที่ดีที่สุด


แต่อยากจะให้เป็นไอเดียในการเลี้ยงหรือปลูกต้นไม้ ว่าเรานั้น สามารถทดลองเพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีสุด
“การเกษตร ก็คือการทดลอง บันทึก และนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อต่อยอดให้ดีขึ้นไปอีก”

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

หินภูเขาไฟสีดำ หินลาวาดำ หินทรายสีดำ วัสดุปลูกพรีเมียม ( Black volcanic stone ) ใช้โรยหน้ากระถาง ผสมดินปลูก


หินภูเขาไฟสดำ หินลาวาดำ (สินค้านำเข้า)

ขนาด: 800 กรัม / ถุง

// Speacial offer //
พิเศษ ลดราคา จาก 40 บาท
ลดเหลือ30 บาท

ราคา ฿ 40 30

✔️ เลือกช่องทางการสั่งซื้ออื่น


รายละเอียด

ใช้โรยหน้ากระถางประคองต้นแคคตัส (กระบองเพชร) หินเป็นลักษณะหินทรายเนื้อหยาบ มีความโปร่ง พรุนสูง แห้งไว้ ช่วยให้อากาศในดินถ่ายเทได้ดี ทำให้ดินในกระถางระบายความชื้นได้ง่าย และสีจะอ่อนลงเมื่อดินแห้ง ช่วยให้สังเกตความชื้นในดินก่อนรดน้ำได้ง่าย

ริวิว การจัดส่งสินค้าจากคุณลูกค้า

ดินคานูมะ ดินญี่ปุ่นสีเหลือง วัสดุปลูกนำเข้า เกรดพรีเมียม ใช้ผสมดินปลูก โรยหน้ากระถาง ( Kanuma Soil )


ดินคานูมะ Kanuma Soil

ขนาด: 400 กรัม / ถุง

ราคา ฿ 60

✔️ เลือกช่องทางการสั่งซื้ออื่น


รายละเอียด

คุณสมบัติของดินจะมีความคล้ายกับ ดินอคาดามะ แตกต่างกันเรื่องดิน คานูมะ จะมีน้ำหนักเบา อุ้มน้ำและระบายความชื้นเร็ว เม็ดจะมีลักษณะกลมๆ เรียบเนียน สีดินจะออกเป็นสีครีม อมเหลือง นิยมใช้โรยหน้ากระถาง แคคตัส กุหลาบหิน และไลทอป
• ดินมีสารอาหารในตัวเอง ช่วยบำรุงต้นไม้
• เนื้อดินไม่แข็งจนเกินไป ทำให้ไม่เบียดโคนไม้ ใส่ได้ตั้งแต่ไม้เล็กจนถึงไม้โต ทำให้โคนไม้สวย
• สีของดินทำให้เราสังเกตความชื้นของดินได้ง่าย สะดวกในการสังเกตการให้น้ำ หรือความชื้นในดิน
• ดินญี่ปุ่นนั้นมีความโปร่ง จึงช่วยระบายความอับชื้นในดินได้ดี
• ใช้เป็นส่วนผสมดินปลูก ผสมดินปลูกไลทอป หรือจะใช้ล่อรากแคคตัส กระบองเพชร

ริวิว การจัดส่งสินค้าจากคุณลูกค้า

ชุดปลูก กระบองเพชร ขนาดเล็ก Cactus Plant Mini Set


ชุดปลูกขนาดเล็ก Mini3garden Cactus Plant Mini Set

ขนาด: 5 อย่าง / 1 เซ็ต

ราคา ฿ 100

✔️ เลือกช่องทางการสั่งซื้ออื่น


รายละเอียด

ใช้ปลูก ชำหน่อ เปลี่ยนกระถาง กระบองเพชร แคคตัส กุหลาบหิน ไม้อวบน้ำ 1 ชุด ประกอบด้วย / 5 อย่าง
ดินผสมพร้อมปลูกสูตรพรีเมี่ยม / 500 กรัม
ดินญี่ปุ่น อคาดามะ ใช้โรยหน้ากระถาง / 200 กรัม
หินภูเขาไฟ เบอร์ 02 ใช้รองก้นกระถาง / 100 กรัม
มาเต็ม มูลค้างคาว ใช้ใส่บำรุง ต้น ราก เร่งดอก เพิ่มความสมบูรณ์ แข็งแรง / 80 กรัม
กระถางพลาสติก สีขาว เนื้อหนา ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 ใบ

เปรียบเทียบ ขนาดการปลูกโดยประมาณ
กระถาง ขนาด 2 นิ้ว ปลูกได้ ประมาณ 8-10 กระถาง
• กระถาง ขนาด 3 นิ้ว
ปลูก ได้ ประมาณ 3-5 กระถาง

**โดยขนาดเป็นการประมาณทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความลึก และทรงของกระถางที่ใช้ปลูก อาจจะทำให้ได้มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ**

คำแนะนำ และขั้นตอนการปลูกแคคตัส
1. วัสดุรองก้นกระถาง ใส่ประมาณ 1/3 ของกระถาง แนะนำเป็น : หินภูเขาไฟ ช่วยระบายน้ำได้ดี โปร่งลดการเกิดโรค
2. ดินปลูกแคคตัส กระบองเพชร ไม้อวบน้ำใส่จนเกือนเต็ม เว้นด้านบนสักประมาณ 1 ซม. เพื่อใส่เป็นหินประคองต้น
3. หินโรยหน้ากระถาง ใส่เพื่อประคองต้น ไม่ให้ล้ม หรือ ดินกระเด็นเวลารดน้ำ มีวัสดุให้เลือกใช้หลายแบบ

ก่อน และ หลังปลูกแคคตัส กระบองเพชร ไม้อวบน้ำ
• ควรตัดแต่งราก และทิ้งไว้ให้แผลแห้ง ก่อนปลูก >> ดูวิธีการตัดแต่งราก <<
• ลักษณะดินปลูก ควรมีความชื้นเล็กน้อย ถ้าหากดินแห้งให้สเปรย์น้ำใส่ดินปลูก ก่อนใช้งาน
• หลังจากปลูก งดให้น้ำ ประมาณ 3-5 วัน เพื่อให้รากไม้ฟื้นตัว >>ดูการดูแลหลังจากปลูก<<

ริวิว การจัดส่งสินค้าจากคุณลูกค้า

เพาะเมล็ดกระบองเพชร ไม้ใบ ไม้อวบน้ำ ต้นไม้ทั่วไป ปลอดสารเคมี


ขั้นตอนการเพาะเมล็ดกระบองเพชร ไม้อวบน้ำ แบบ mini3garden

cactus_seeding2.jpg
  1. แกะดินเพาะออกจากถุง ใส่กล่องตามปริมาณที่ใส่ในถุง ต่อ 1 กล่อง แล้วปิดฝาและนำไปตากแดดทั้งกล่อง วิธีนี้จะเหมือนเป็นการใช้ความร้อนนึ่งดิน
cactus_seeding3.jpg

2. ตากไว้ในที่ที่แดดแรง แดดจัด เป็นเวลา 1-2 วัน กล่องจะมีไอน้ำเกาะ ให้เปิดฝาเอาไอน้ำที่เกาะออก เสร็จแล้วเปิดฝาทิ้งไว้นำดินก็เอามาผึ่งให้แห้ง ลดอุณหภูมิดินให้ปกติแล้ว นำไปเพาะเมล็ด









ขั้นตอนการเพาะเมล็ดแคคตัส

  1. เทน้ำสะอาดใส่ดินที่อยู่ในกล่อง ปริมาณน้ำให้ท่วมหน้าดิน ทิ้งไว้สัก 10 นาที ให้ดินเพาะได้ดูดน้ำจนชุ่ม และเช็คอีกครั้งว่าดินชื้นพอหรือยัง หากดินยังแห้งอยู่ให้สเปรย์น้ำเพิ่ม ดินไม่ควรมีน้ำขังแต่ควรมีความเปียกชุ่ม
  2. นำเมล็ดที่เตรียมไว้ วางบนผิวดิน หลังจากนั้นกดเมล็ดลงไปในดินเพาะเล็กน้อย
  3. ปิดฝาให้สนิทและนำไปวางไว้ในที่แสงแดด ประมาณ 30-40% หรือแดดรำไร

ข้อควรระวังและสังเกตในการเพาะเมล็ด

  • ความชื้นในกล่อง หากดินแห้งเกินไปให้สเปรย์น้ำเพิ่มความชื้น ควรรักษาความชื้นของดินให้เหมาะสมและต่อเนื่อง แต่ถ้าหากเรากะปริมาณน้ำให้พอดีตั้งแต่การเพาะ ไม่จำเป็นต้องเปิดฝาเติมน้ำอีกเลย
  • อย่านำกล่องที่เพาะเมล็ดแล้ววางในที่ๆ แสงแดดแรง อาจจะเกิดตะไคร่น้ำมากเกินไป หรืออาจแดดจะทำต้นอ่อนฝ่อ หรือสุกได้

คำถามที่พบบ่อย

การเพาะเมล็ดทำแบบไหนได้บ้าง??

การเพาะเมล็ดแคคตัสนั้น สามารถทำได้ 2 รูปแบบคือ ระบบเปิด และระบบปิด แต่ที่นิยมคือ ระบบปิด เพราะง่ายต่อการดูแล ไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ และก็อัตราการรอดก็ค่อนข้างสูงกว่าระบบเปิด ที่อาจจะมีการฝ่อ หรือยุบตัวในกรณีที่ความชื้นไม่เพียงพอ หรืออาจจะโดนรบกวนจากแมลงหรือสัตว์ต่างๆ

การเพาะเมล็ดจำเป็นจะต้องใช้ยากันเชื้อราไหม??

จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่การเพาะแบบ mini3garden ไม่ต้องใช้ยากันรา เพียงแค่

  • ต้องนำดินเพาะเมล็ด ตากแดดก่อนปลูกเพื่อเป็นการช่วยฆ่าเชื้อ
  • ล้างเมล็ดให้สะอาดพอ จะไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องรา เพราะ เนื้อ หรือเมือกที่เกาะอยู่กับเม็ดจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดราได้ง่าย
  • ไม่เปิดดู บ่อยๆ เพราะการที่เปิดดูนั้น เมื่ออุณหภูมิจากภายนอกเข้าไป ถ้าอุณหภูมิมีความต่างกันมากระหว่างด้านในและนอกกล่องเพาะ อาจทำให้เกิดเชื้อราได้ ถ้าอยากเปิดดูแนะนำว่าให้เปิดในช่วงที่อุณหภูมิ ไม่ต่างกันมากกับอุณหภูมิในกล่อง เช่น เช้ามืด หรือ ช่วงค่ำๆ
  • วางกล่องเพาะไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเท แสงแดดเหมาะสม
cactus_seeding4
หลังจากเพาะเมล็ดได้ 5 วัน

หลังจากเพาะเมล็ด ประมาณ 5-10 วัน ก็จะมีต้นอ่อนงอกออกจากเมล็ด อัตราการงอกจะมีปริมาณมากน้อย นั้นก็ขี้นอยู่กับความสมบูรณ์ของตัวเมล็ดเอง และการงอกช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ




cactus_seeding5.jpg
หลังจากเพาะเมล็ดได้ 30 วัน

พอหลังจากต้นอ่อนค่อยแข็งแรงและเติบโตแล้วประมาณ เดือนที่ 4-5 ก็ค่อยเพิ่มๆ ความเข้มข้นของแสงแดด เพื่อเป็นการให้เขาได้ค่อยๆ ปรับตัว

cactus_seeding6
หลังจากเพาะเมล็ดได้ 5 เดือน ต้นอ่อนเห็นเป็นรูปร่างชัดขึ้น
เมื่อได้อายุ หรือขนาดที่โตพอจะนำออกมาปลูก ก็ค่อยๆ แง้ม เปิดฝาที่ละนิด เพื่อให้ต้นค่อยๆ ปรับกับอากาศภายนอก

การเพาะเมล็ดแบบง่ายๆ by #mini3garden

เมล็ดที่ใช้เพาะในวีดีโอ เป็น Astrophytum (แอสโตรไฟตัม)




บทความที่เกี่ยวข้อง

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

วิธีรักษา และอาการต้นเหี่ยว โคนยุบ ของแคคตัส (กระบองเพชร)


อาการต้นเหี่ยว โคนยุบตัว ของแคคตัส เกิดได้จากหลายสาเหตุ
แต่ที่สำคัญ คือ ระบบรากของต้นไม้เสียหาย ซึ่งระบบรากนั้น หากไม้ทำการรื้อกระถางก็จะไม่เห็นปัญหาว่า รากมีปัญหาจากอะไร

สาเหตุหลักที่ทำให้รากมีปัญหา มีดังนี้

– การได้รับน้ำทีไม่เพียงพอเป็นเวลานาน จนทำให้รากแห้งและตาย

– ดินที่ใช้แข็งตัว หรือเสื่อมสภาพจนรากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

– มีเพลี้ยกัดกินราก หรือ เกิดรากินราก ทำให้รากตาย และไม่สามารถดูดซึมน้ำ อาหาร ความชื้นได้ ( หากมีเพลี้ยต้องทำการกำจัดเพลี้ยที่มีอยู่เพื่อป้องกันการระบาด และกลับมาเป็นใหม่ )

วิธีการรักษารากนั้น มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ เม็ดดินเผา หรือหินภูเขาไฟ ล่อราก และอีกวิธีคือ ใช้วิตามินบำรุง หรือยาล่อรากให้แตกออกมาใหม่และลงปลูก









วิธีที่แนะนำ คือ ล่อรากโดยการใช้ เม็ดดินเผา ล่อราก และฟื้นฟูต้นที่ขาดน้ำเป็นเวลานานเพราะระบบรากเสีย วิธีนี้จะได้รากไม้ใหม่ที่แข็งแรง และต้นที่กลับมาอวบอิ่มเหมือนเดิม โดยระยะเวลาการรักษานั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของราก และต้นว่ามีอาการรุนแรงขนาดไหน เพราะโดยปกติหากต้นไม่ยุบตัวมาก ก็ใช้เวลาราว 2 สัปดาห์ก็จะกลับมาปกติ และนำลงปลูกลงดินได้ตามเดิม


ขั้นตอนและวิธีการฟื้นฟู ต้นแคคตัน กระบองเพชร ด้วยเม็ดดินเผา  (Popper) และหินภูเขาไฟ

นำต้นแคคตัส ออกจากดินเก่า ล้างรากให้สะอาด ทิ้งไว้สัก 2- 3 ชม. หรือ 1 วันนำมาตัด เล็มรากฝอยรากแล้วนำไปผึ่งไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท เลี่ยงแดดจัด ทิ้งไว้เป็นเวลา 3 – 5 วัน เพื่อให้แผลที่รากแห้ง ค่อยนำมาล่อราก

cactus-sick9
cactus-sick6

หลังจากผึ่งไว้จนแผลที่รากแห้งแล้ว นำมาใส่ในเม็ดดินเผา ที่มีหินภูเขาไฟผสมเล็กน้อย โดยนำภาชนะก้นปิด ไม่มีรู ใส่ลงไปให้สูงจนเต็มภาชนะ หลังจากนั้นใส่น้ำไว้ครึ่งหนึ่งของภาชนะ ควรเป็นภาชนะที่ใส เพื่อจะได้มองเห็นระดับน้ำ นำต้นไม้วางลงบนเม็ดดินเผาให้รากฝั่งลงไป และยกโคนต้นให้เหนือเม็ดดินเผา ความชื้นจะค่อยๆ ระเหย 

หมั่นค่อยเติมน้ำเมื่อแห้ง ระดับน้ำครึ่งหนึ่งของภาชนะเหมือนเดิม เลี่ยงการวางกลางแดด วางไว้ที่แดดอ่อนๆ หรือชายคาบ้าน 




cactus-sick7

ผ่านมาประมาณ 5 – 7 วัน รากอ่อนของไม้จะค่อยๆ งอกออกมา ช่วงนี้งดการดึง จับแรงๆ หรือยกขึ้นมาบ่อยๆ เพราะรากที่เกิดมายังไม่แข็งแรง อาจจะกระทบกระเทือนและเสียหายได้

cactus-sick8.jpg

ทิ้งไว้จนกว่าจะเห็นว่า ต้นที่เหี่ยว โคนต้นที่ยุบตัว กลับมาเต็งตึงเหมือนเดิม ค่อยนำมาปลูกลงดิน

cactus-sick5

สนใจสั่งซื้อ เม็ดดินเผา และหินภูเขาไฟ คลิกที่นี่

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

เม็ดดินเผา ป๊อบเปอร์ (Popper)


เม็ดดินเผา ป๊อบเปอร์ (Popper) ขนาดเม็ด S

ขนาด: 400 กรัม / ถุง

// Speacial offer //
พิเศษ ราคา 4 ถุง จาก 120 บาท
ลดเหลือ 100 บาท

ราคา ฿ 40

✔️ เลือกช่องทางการสั่งซื้ออื่น


รายละเอียด

เม็ดขนาด S เม็ดประมาณ 3-5 มม.
– ใช้ล่อรากแคคตัส ไม้อวบน้ำ
– ใช้ฟื้นฟู แคคตัส อาการโคนยุบ รากแห้ง ขาดน้ำ ระบบรากเสีย
– ใช้เป็น วัสดุปลูกพืชไร้ดิน
– ใช้ผสมดินปลูกต้นไม้ เก็บความชื้น
– ช่วยเพิ่มช่องอากาศในดิน ลดการเกาะตัวของดิน

ใช้ในการล่อราก จะใช้เฉพาะเม็ดดินเผา หรือจะผสมหินภูเขาไฟ 00 และเพิ่มสารอาหารกระตุ้นรากด้วยมูลค้างคาว หรือก้อนฟอตเพส

ริวิว การจัดส่งสินค้าจากคุณลูกค้า

วัสดุรองก้น กระถาง กระบองเพชร (แคคตัส) ไม้อวบน้ำ กุหลาบหิน ใช้อะไรได้บ้าง??


ในการปลูกแคคตัส (กระบองเพชร) ไม้อวบน้ำ สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ วัสดุที่ใช้รองก้นกระถาง เพราะแคคตัสนั้น เป็นพืชที่ต้องการความชื้นน้อย และอยู่ในที่แห้งและโปร่ง ระบายน้ำได้ดี

โดยตามธรรมชาติ แคคตัสมันจะเกาะอยู่ตามซอกหิน มีเนื้อดินร่วนๆ เพียงเล็กน้อย การปลูกในกระถางก็ควรให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้เขานั้น เจริญเติบโตงอกงามได้ดี

หินภูเขาไฟ

ข้อดี :
• ช่วยให้รากไม้งอกเร็ว เดินดี
• มีความพรุน โปร่ง ระบายน้ำดี
• มีธาตุอาหารในตัวเอง
• อายุการใช้งานนาน
• ใช้งานง่าย

ข้อเสีย :
• ราคาสูง
• หาซื้อยาก

สนใจสั่งซื้อ : หินภูเขาไฟ คลิก

cactus_002_brick

อิฐมอญ

ข้อดี :
ช่วยให้รากไม้งอกเร็ว

ข้อเสีย :
• การใช้งานยาก ต้องทุบให้ชิ้นเล็ก
เศษฝุ่นชอบจับตัวกันเป็นก้อน อุดทางระบายน้ำ
• มีเศษฝุ่น ต้องร่อนก่อนใช้งาน

cactus_002_chacol

ถ่านไม้

ข้อดี :
ราคาถูก ระบายความชื้นดี

ข้อเสีย :
• การใช้ง่ายยาก ต้องทุบให้ชิ้นเล็ก
• เป็นฝุ่นง่าย ไม่เหมาะกับคนที่แพ้
• มีเศษฝุ่น ต้องร่อนก่อนใช้งาน

cactus_00_coco

กาบมะพร้าว

ข้อดี :
ราคาถูก หาซื้อง่าย

ข้อเสีย :
อายุการใช้งานสั้น เสื่อมเร็ว
• เกิดโรคง่าย เช่น รา เพลี้ยแป้ง
• ต้องใช้ยาคอยควบคุมโรค