วิธีทำให้กระบองเพชร (แคคตัส) มีเมล็ด ติดฝักโดยผสมเกสร


สิ่งที่มือใหม่!! ควรรู้ก่อนผสมพันธุ์กระบองเพชร แคคตัส (Cactus)โดยการเขี่ยเกสร

• กระบองเพชร (แคคตัส) แต่ละสกุล มีเวลาบานของดอกที่แตกต่างกันไป และระยะเวลาในการบานนั้นก็ไม่เท่ากัน บางสกุล บานวันเดียวแล้วฝ่อ หรือบาน 2-3 วัน และเวลาบานมีทั้งบานตอนกลางคืน เช้า กลางวัน ช่วงบ่าย

• บางสกุล สายพันธุ์ สามารถติดฝักได้เอง โดยไม่ต้องผสมเกสร เช่น Notocactus, Melocactus, Frailea

• การผสมเกสรในต้นเดียวกัน อาจจะไม่ติดฝัก หรือมีโอกาสติดน้อยมาก มากกว่าการผสมเกสรแบบคนละต้น

• หากเป็นไม้สกุลเดียวกันแต่คนละสายพันธุ์ สามารถนำมาผสมกันได้ เช่น แอสโตรฯ นูดัม X แอสโตรฯ มายริโอ

• ในต้นๆ หนึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง ต้นพ่อ และต้นแม่ โดยการเอาเกสรคู่ตรงข้ามมาเข้ากัน

• ในบางสกุลอย่างยิมโน แม้ดอกจะหุบไปแล้ว ก็สามารถผสมเกสรได้

• วันที่บานมีผลต่อเกสรตัวผู้ตัวเมีย ตัวผู้ หากบานหลายวันมาก ความสมบูรณ์ของเกสรอาจจะลดลง โดยต้องใช้วีธีสังเกต










——- รู้จักกับเกสร ตัวผู้ และตัวเมีย ——-

How_to_breeding_2.jpg

ในดอก 1 ดอกนั้น เกสรตัวผู้จะมีจำนวนมาก แต่เกสรตัวเมียนั้น จะมี 1 ก้าน
—————————————
ความสมบูรณ์ของเกสรมีส่วนสำคัญที่จะทำให้ติดฝัก หากยอดเกสรตัวเมียที่แห้งมาก ไม่มีน้ำเมือกที่เป็นตัวจับเกสรตัวผู้ อาจจะทำให้โอกาสติดน้อยลง  ละอองเกสรตัวผู้ที่เยอะ ยิ่งเป็นผลดี

How_to_breeding_3





——- วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ——- 
How_to_breeding_4.jpg

• พู่กันขนนิ่ม ขนาดกลาง ปลายเล็ก หรือ สำลีปั่นหู
• แหนบก้านยาว
• มีดเล็กสำหรับปาดดอก (ในกรณีผสมสกุลยิมโน) **มีดขนาดเล็ก และคมปาดทีเดียวแล้วหลุดออก เพื่อไม่ให้ก้านดอกช้ำหรือเสียหาย หากเป็นมีดคว้านหรือโค้ง จะง่ายขึ้นเพราะมีลักษณะโค้งรับไปกับดอก


วิธีผสมพันธุ์ กระบองเพชร แคคตัส (Cactus)โดยการเขี่ยเกสร

How_to_breeding_5.jpg

     ใช้แหนบดึงปลายเกสรตัวผู้ บริเวณอับละอองเลณู อย่างระมัดระวัง แล้วนำไปใส่ ใส่ในยอดเกสรตัวเมีย หรือจะใช้เป็นพู่กัน สำลีปั่นหู ปั่นเอาแค่ละอองเกสรตัวผู้ ไปปั่นใส่ในยอดเกสรตัวเมีย

ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้แล้วแต่ความถนัดและความเหมาะสม อย่างในกรณีที่เป็นสกุลแมมมิลลาเรียที่มีดอกเล็ก การใช้แหนบดึงเกสรอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับดอกได้ ใช้เป็นพู่กันปลายเล็กๆ ปั่นเกสรจะสะดวกกว่า




จะรู้ได้ยังไงว่า เราผสมเกสรติด ??


หลังจากผสมเกสร ประมาณ 3 -5 วัน ถ้าก้านดอกที่เราผสมไว้ มีลักษณะพองขึ้น ไม่เหี่ยว หรือฝ่อ ก้านดอกจะเหนี่ยว เอามือเขี่ยเบาๆ ก็ไม่หลุด แสดงว่าผสมติด แต่ถ้าหากก้านดอกเหี่ยว ลองเอามือเขี่ยเบาๆ แล้วหลุดเลย แสดงว่าการผสมเกสรไม่สำเร็จ


หลังจากผสมเกสร นานไหม กว่าจะเก็บเมล็ดได้ ??

ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความสมบูรณ์ สภาพอากาศและสภาพแวดล้อม ว่าเอื้ออำนวยกับการสุกของฝักขนาดไหน ซึ่งระยะเวลาโดยประมาณ คือ 3-8 สัปดาห์

—————————————–
วิธีผสมเกสรยิมโน แคคตัส (Gymnocalycium) แบบปาดดอก ตอนดอกหุบ
>> อ่านเพิ่มเติมคลิก!! <<

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

ชำหน่อ กระบองเพชร(แคคตัส) ง่ายๆ ด้วยเม็ดดินเผา (Popper)


spilt_cactus

การชำหน่อ กระบองเพชร (แคคตัส) สามารถชำลงในดินปลูก หรือวัสดุอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ดินญี่ปุ่น หินภูเขาไฟ หรือเม็ดดินเผา แต่ข้อดีของการชำด้วยเม็ดดินเผา ก็คือ เรื่องการรักษาความชื้นที่เก็บได้ดี วัสดุโปร่ง ทำให้ควบคุมการให้น้ำได้ง่าย เพราะในช่วงที่ชำหน่อนั้น ไม้ต้องการความชื้นมากกว่า ตอนที่ปลูกตามปกติ เพื่อกระตุ้นในรากนั้นงอกออกมาง่ายและเร็ว

การชำหน่อด้วยเม็ดดินเผา สามารถทำได้โดยใช้เม็ดดินเผา ล้วนหรือจะผสมกับหินภูเขาไฟ เบอร์ 00 ได้ทั้ง 2 แบบ

สิ่งที่ต้องระวังและดูแลในการชำแบบนี้คือ

  • การรักษาความชื้นและแสงแดดให้เหมาะสม
  • หน่อที่นำมาล่อรากควรจะต้องสมบูรณ์
  • หลังจากเด็ดหน่อมากแล้ว ควรพักไว้สัก 7-10 วันก่อน นำมาชำเพื่อให้แผลที่เด็ดมากนั้นปิดและแห้ง เพื่อป้องกันการเน่า

วิธีการชำหน่อ
     หลังจากผึ่งหน่อไว้จนแผลที่เด็ดแห้งแล้ว ก็นำมาใส่ในเม็ดดินเผา ที่มีหินภูเขาไฟผสมเล็กน้อย หรือจะเป็นเม็ดดินเผาล้วนโดยนำภาชนะก้นปิด ไม่มีรู ใส่ลงไปให้สูงจนเต็มภาชนะ หลังจากนั้นใส่น้ำไว้ครึ่งหนึ่งของภาชนะ ควรเป็นภาชนะที่ใส เพื่อจะได้มองเห็นระดับน้ำ
นำต้นไม้วางลงบนเม็ดดินเผาให้รากฝั่งลงไป และยกโคนต้นให้เหนือเม็ดดินเผา ความชื้นจะค่อยๆ ระเหย หมั่นค่อยเติมน้ำเมื่อแห้ง ระดับน้ำครึ่งหนึ่งของภาชนะเหมือนเดิม เลี่ยงการวางกลางแดด วางไว้ที่แดดอ่อนๆ หรือชายคาบ้าน









 เมื่อชำหน่อไปได้สักระยะ จนเห็นว่า ยอดเดินแล้ว เป็นสัญญาณบอกว่า ไม้นั้นมีรากงอกออกมาแล้ว สามารถนำไปปลูกลงดินปลูกกระบองเพชรได้ตามปกติ 

spilt_cactus3.jpg

ในการนำไปปลูกควรจะต้องระวังและเบามือ เพื่อป้องกันไม่ให้รากที่งอกออกมานั้นขาด และต้องนำลงปลูกทันทีที่นำออกจากการชำราก เพราะรากนั้นยังอ่อนแอ อาจจะทำให้รากแห้งและต้นขาดน้ำได้




spilt_cactus4.jpg

ข้อดีของการชำหน่อด้วย เม็ดดินเผา หรือป๊อบเปอร์ คือ เราไม่ต้องรดน้ำบ่อย เพื่อรักษาความชื้น และรากจะมาค่อนข้างเร็ว สามารถนำมาใช้ซ้ำๆ ได้หลายครั้ง หลังจากใช้เสร็จ ก็นำพึ่งแดดให้แห้งสนิทและเก็บไว้ใช้งานได้อีก หรือจะทำเป็นถาดแช่ไว้ เมื่อมีหน่อก็สามารถนำมาชำต่อได้เรื่อยๆ
แต่ข้อที่ด้อยกว่าการชำลงดินคือ ในการชำลงดินนั้นรากอาจจะมาช้ากว่าเม็ดดินเผา แต่รากจะแข็งแรง และปลูกต่อได้เลย โดยไม่ต้องย้ายมาลงปลูกใหม่

หลังจากนำไม้ลงปลูกแล้วก็ดูแลเหมือนการปลูกต้นไม้ทั่วไป
>> การดูแล กระบองเพชร (แคคตัส) ไม้อวบน้ำ หลังจากการเปลี่ยนกระถาง <<

หลังจากดูแลเลี้ยงดู ใส่ปุ๋ยบำรุง ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ เจ้าหน่อเล็กก็พร้อมออกดอก แต่หน่อต่อไป 

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

กระถางพลาสติก 8 เหลี่ยม ทรงกว้าง 3.5 นิ้ว


pot-8-fat

กระถางพลาสติก 8 เหลี่ยม ทรงกว้าง 3.5 นิ้ว สูง 3 นิ้ว ก้นระบายน้ำได้ดี

pot-8-fat-S
pot-8-fat-S2

1 ใบ / ราคา 13 บาท
————————–
5 ใบ / ราคา 60 บาท
————————–
20 ใบ / ราคา 230 บาท

น้ำหนักประมาณ 15 กรัม / ใบ
** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง**
pot-8-fat

เปลี่ยนดินตัดแต่งราก เพื่อฟื้นฟูกระบองเพชรต้นเหี่ยว โคนต้นยุบ ต้นไม้ไม่สดใส เพราะเกิดจากระบบรากมีปัญหา


sick

ต้นที่มีปัญหานั้น เป็นผลที่เกิดจากการลืมรดน้ำเป็นระยะเวลาหลายเดือน ติดกัน มีเพียงน้ำจากละอองฝนบ้าง ทำให้ต้นกระบองเพชร ที่เคยสดใส เหี่ยวแห้ง ไม่โต แต่ไม่ตาย เหมือนการเจริญเติบโตหยุดชะงัก

อาการเหล่านี้เทียบได้กับการที่ต้นไม่ได้รับน้ำเพียงพอ ในกรณีที่ใช้การฉีดพ่นน้ำ แต่ไม่ได้รดน้ำจนถึงราก จนทำให้รากตาย รากฝอยแห้งและหลุดออก เหลือเพียงรากแก้วทำงาน

sick4.jpg   

 ในกรณีนี้ต้นยังมีสภาพที่พอฟื้นฟูได้ง่าย เพราะอาการยังไม่รุนแรงมาก ใช้เป็นวิธี ตัดแต่งราก โดยตัดเล็มปลายรากที่ตายทิ้ง กระตุ้นให้ต้นสร้างรากใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมา โดยหลังจากตัดแต่งรากแล้ว และรอให้แผลแห้งสนิท ก็นำลงปลูกใน ดินปลูกกระบองเพชร ได้เลยโดยดินนั้นควรมีความชื้นพอเหมาะอยู่แล้วไม่แห้งไป หากดินแห้งมากให้ฉีดละอองน้ำเพิ่มความชื้นเล็กน้อย ก่อนนำมาปลูก

หลังจากลงปลูกควร งดรดน้ำ 4 – 5 วัน เพื่อให้ระบบรากได้ฟื้นฟู ในระหว่างนี้ให้เลี้ยงในแดดร่ำไร งดวางไว้ที่แดดจัด เพราะระบบรากยังไม่แข็งแรงอาจจะทำให้ตายได้

>>วิธีดูแลต้นกระบองเพชร ไม้อวบน้ำ หลังจากลงปลูก หรือเปลี่ยนกระถาง<<









ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ต้นที่เหี่ยวก็จะฟื้นฟูขึ้นมาเหมือนเดิม โดยทั้งนี้ระยะเวลาไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ตัวไม้เอง และดินที่ใช้ปลูกที่จะช่วยให้ไม้ฟื้นตัวได้เร็ว ดินที่ใช้เป็นดินสูตรของเรา #mini3garden

sick3.jpg

พัฒนาการหลังจากการปลูกลงดินใหม่

————-
ส่วนในกรณีที่ต้น เหี่ยว และยุบตัวมาก
แนะนำให้ใช้การฟื้นฟูด้วย เม็ดดินเผา ป๊อบเปอร์ (Popper)ก่อนนำลงปลูก
>> ดูวิธีการใช้เม็ดดินเผา ฟื้นฟูต้นเหี่ยว <<

cactus-sick6

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

ล่อราก ชำหน่อ ยิมโนด่าง : รีวิว วัสดุใช้ล่อราก (Gymnocalycium Variegata)


Review-create_new_root_01

     ในการ “ล่อราก” หรือ ชำหน่อยิมโนด่างนั้น จะค่อนข้างยาก กว่าการล่อรากยิมโนที่ไม่ด่าง และสายพันธุ์อื่น ด้วยความที่เขามีสีที่ด่าง หรือสีเขียวน้อย ทำให้การสังเคราะห์แสง เพื่อเจริญเติบโตจงค่อนข้างยาก บางคนถึงนิยมนำไป “กราฟ” เพราะจะช่วยทำให้ไม้โตไวขึ้น

โดยปกติ การล่อราก สามารถทำได้ทั้งแบบ ระบบเปิด และระบบปิด ซึ่งมีข้อดีเสียแตกต่างกันไป การล่อรากในระบบปิด เสี่ยงต่อการเน่า หรือขึ้นรา การล่อรากแบบเปิด ก็เสี่ยงต่อการที่หน่อฝ่อ รากไม่ออก

สิ่งสำคัญในการล่อรากแบบปิด โดยไม่ใช้ยาเร่งราก หรือยากันรา

• หน่อที่นำมาล่อราก หรือชำหน่อ แผลต้องแห้งสนิท ไม่ฉะนั้นอาจจะทำให้เกิดการเน่า แนะนำให้นำหน่อไปตากแดดอ่อนๆ จะช่วยสมานแผล และฆ่าเชื้อโรคได้

• ภาชนะที่ใช้ หรือวัสดุที่ใช้ควรจะต้องมีความสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดรา

• อุณหภูมิที่เหมาะสม อากาศควรถ่ายเทได้ดี แสงแดดที่พอเพียง เป็นช่วงแดดเช้า หรือแดดร่ำไร ประมาณ 40% ห้ามวางในที่ที่อากาศร้อนอบอ้าว หรืออุณหภูมิสูง

• ไม่ควรเคลื่อนย้าย หรือเปิดดูบ่อยๆเพราะอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างภายในกับภายนอก
อาจจะมีผลกับต้น และการยกดูบ่อยๆ จะเป็นการรบกวน ทำให้รากออกช้า หรือไม่ออก









ขั้นตอนการล่อราก หรือชำหน่อแบบปิด นั้นง่ายมาก
เพียงแค่ใส่วัสดุที่เราใช้ล่อราก 1/3 ของภาชนะที่เราใช้ล่อราก พรมน้ำให้ชุ่ม แล้ววางหน่อของเราไว้บนวัสดุล่อราก โดยไม่ต้องกดหรือฝังแค่วางไว้เฉย หลังจากนั้นก็ปิดฝาให้สนิท คำแนะนำ ภาชนะที่จะนำมาใช้ล่อรากควรเป็น ภาชนะที่รับแสงได้ดี ไม่ควรทึบ หรือแสงเข้าถึงยาก

วัสดุที่เรานำมารีวิวในการล่อราก หรือชำหน่อ ยิมโนด่าง มีดังนี้
•เม็ดดินเผา •เพอร์ไลต์จิ๋ว •ดินอคาดามะ •หินภูเขาไฟ ทีพีไอ •ดินปลูก #mini3garden
โดยมีการนำวัสดุมาผสมกันด้วย
ระยะเวลาที่ใช้คือ 25 วัน
ล่อราก หรือชำหน่อ แบบไม่ใช่ยาเร่งราก และยากันรา


**ปัจจัยที่อาจจะทำให้ได้ ผลผลลัพธ์แตกต่างคือ • สี ความด่าง มาก น้อย • ขนาด และความสมบูรณ์ ของหน่อ
การทดลองนี้ถือว่า 70% สามารถนำมาตัดสินใจใช้วัสดุ แต่ละประเภท และทดลองต่อไป

Review-create_new_root_02
Review-create_new_root_03

-ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้ ดินปลูก #mini3garden

Review-create_new_root_04

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • ดินอคาดามะ ผสมกับ • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ 

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • เม็ดดินเผา ผสมกับ •เพอร์ไลท์จิ๋ว

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • เม็ดดินเผา ผสมกับ • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ

ล่อราก หรือชำหน่อย ยิมโนด่าง โดยใช้  • หินภูเขาไฟ ทีพีไอ


สรุปผลการใช้วัสดุล่อราก ชำหน่อ ยิมโนด่าง แต่ละชนิด

หลังจากการล่อรากเสร็จแล้วก็คือ ขั้นตอนการในไปปลูกในดินปลูกแบบปกติต่อไป โดยไม่ต้องตัดแต่งราก หรือดึงวัสดุที่ติดอยู่กับรากออก เพราะรากที่ล่อ หรือชำนั้นค่อนข้างบอบบาง ไม่ควรมีการกระทบกระเทือนแบบรุนแรง เพราะอาจจะทำให้รากตายได้ จึงต้องควรเบามือ และใช้ความระมัดระวัง ดินปลูกที่ใช้ควรเป็นดินที่มีความชื้นอยู่ในตัว ไม่แห้ง

หลังจากปลูกเสร็จก็สเปรย์น้ำเล็กน้อย และวางไว้ในที่ๆ แดดร่ำไร ไม่ร้อน ให้เขาได้ค่อยๆ ปรับตัว หลังจากผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ รากก็จะเดินดีแข็งแรง และถ้าหากสังเกตว่า ยอดเริ่มเดินแสดงว่า ระบบรากนั้นสมบูรณ์แล้ว ก็ค่อยนำไปเทรนแดด เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของแสง และเลี้ยงตามปกติได้เลย

การรีวิวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการฟันธงว่า วัสดุใดดีกว่ากัน แต่เป็นการทดลองเพื่อให้เห็นผลลัพธ์
โดยจะต้องมีการทดลองซ้ำกันหลายครั้งเพื่อเก็บสถิติที่ดีที่สุด


แต่อยากจะให้เป็นไอเดียในการเลี้ยงหรือปลูกต้นไม้ ว่าเรานั้น สามารถทดลองเพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีสุด
“การเกษตร ก็คือการทดลอง บันทึก และนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อต่อยอดให้ดีขึ้นไปอีก”

📌 รวมพิกัด ไอเท็มทำสวนไว้ให้เลือกช้อป !!

Advertisement  / โฆษณา

กระถางพลาสติก กลม ทรงถ้วยชา ขนาด 2 นิ้ว


กระถาง กลม ทรงถ้วยชา 2 นิ้ว

สี: ขาว / รหัส : 2WC-07
สี: อิฐ / รหัส : 2RC-08

ราคา ฿ 2.50 – 4

1 ใบ ราคา ฿ 4
————————–
5 ใบ ฿ 15 ( เฉลี่ย ฿ 3 / ใบ )
————————–
20 ใบ ฿ 50 ( เฉลี่ย ฿ 2.5 / ใบ )


รายละเอียด

ขนาดสินค้า :ปากสูงก้น
นิ้ว2.751.71.5
เซนติเมตร74.44

กระถางพลาสติก ทรงเหลี่ยม 2 นิ้ว ปากบาน


กระถางทรงเหลี่ยม 2 นิ้ว ปากบาน

สี: ขาว / รหัส : 2BS-01
สี: ดำ / รหัส : 2BS-02

ราคา ฿ 2.50 – 4

1 ใบ ราคา ฿ 4
————————–
5 ใบ ฿ 15 ( เฉลี่ย ฿ 3 / ใบ )
————————–
20 ใบ ฿ 50 ( เฉลี่ย ฿ 2.5 / ใบ )


รายละเอียด

กระถางพลาสติก แคคตัส กระบองเพชร ก้นกระถางระบายน้ำได้ดี ช่วยลดความอับชื้น

ขนาดสินค้า :ปากสูงก้น
นิ้ว22.21.4
เซนติเมตร55.73.5


ขั้นตอน และ วิธีการสั่งซื้อ และจัดส่งสินค้า >> คลิก <<

กระถาง แคคตัส กระบองเพชร ต้นไม้ ทรงเหลี่ยม ไร้ขอบ

plastic_pot05.jpg
กระถางพลาสติก สไตล์เรียบๆ Minimal ผิวเงา 
ก้นกระถางระบายน้ำได้ดี ช่วยลดความอับชื้น
——–
มี 2 สี  ขาว / ดำ


กระถางพลาสติก ทรงเหลี่ยม ไร้ขอบ
ปากกระถางกว้าง 3.2 นิ้ว กระถางสูง 3.5 นิ้ว

cactus-succulent-pot98789

กระถางพลาสติก ทรงเหลี่ยม ไร้ขอบ สีขาว  —
1 ใบ / ราคา 8 บาท
————————–
5 ใบ / ราคา 35 บาท
————————–
20 ใบ / ราคา 130 บาท


— 
กระถางพลาสติก ทรงเหลี่ยม ไร้ขอบ สีดำ 
1 ใบ / ราคา 7 บาท
————————–
5 ใบ / ราคา 30 บาท
————————–
20 ใบ / ราคา 110 บาท

น้ำหนักประมาณ 15 กรัม / ใบ
** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง**
plastic_pot_กระถาง 8 เหลี่ยม

กระถางพลาสติก กระบองเพชร แคคตัส
ทรง 8 เหลี่ยม ขนาด 3.5 นิ้ว

1 ใบ / ราคา 20 บาท
————————–
5 ใบ / ราคา 90 บาท
————————–
20 ใบ / ราคา 320 บาท

น้ำหนักประมาณ 20 กรัม / ใบ
** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง**
plastic_pot กระถางปลูกแคคตัส กระบองเพชร

กระถางพลาสติก ทรงกระบะ กระถางแคคตัส



ความกว้างปากกระถางรวมขอบ 17.5 ยาว 12.5 ซม. ความสูงรวมขา 6 ซม.
น้ำหนัก 100 กรัม
——————
#กระถางต้นไม้พลาสติก ทรงกระบะ งานดี เนื้อหนา ทรงสวย มีรูระบายน้ำ สามารถใช้ปลูกต้นไม้ หรือเป็นถาดรองกระถางสี่เหลี่ยม ขนาด 2 นิ้ว ได้ 6 ใบตามภาพ

cactus_pot-6-2

กระถางทรงกระบะ สีขาว

** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง

ราคา 30 บาท


cactus_pot-8
cactus_pot-8-2

กระถางทรงกระบะ สีน้ำตาล

** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง

ราคา30 บาท


cactus_pot-7
cactus_pot-7-2

กระถางทรงกระบะ สีเทา

** ราคาสินค้าไม่รวมค่าจัดส่ง

ราคา30 บาท

cactus_pot-6